วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556

การใส่บาตรด้วยหนังสือธรรมะ


                สังคมปัจจุบันเวลาเร่งรัด ทุกอย่างเร่งรีบ วัตถุเข้ามาแทนที่จิตใจ คนรุ่นใหม่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความกระด้างและชิงชัง จนวันหนึ่งผู้คนจะรู้สึกแห้งแล้ง โหยหาความปรารถนาดี ความรัก และน้ำใจไม่มี ยากกว่าหาแหล่งน้ำในทะเลทราย จงอย่างปล่อยเวลาให้ล่วงเลยแล้วค่อยคิดเยียวยาแก้ไข การเพิ่มคุณธรรม เติมธรรมะเป็นสิ่งที่เราต้องร่วมด้วยช่วยกัน ทำให้กับสังคม แม้จะไม่ได้เห็นผลเปลี่ยนแปลงในทันทีทันใด แต่จะดีขึ้นได้หากทุกคนช่วยกันเผยแพร่และรักษาธรรมะไว้ อย่าปล่อยภาระอันหนักอึ้งนี้ให้เป็นหน้าที่ของพระสงฆ์แต่เพียงลำพัง
                การใส่บาตรด้วยหนังสือธรรมะทำได้ไม่ยากเลย โดยอาศัยสื่อแห่งธรรมทานนำพาบุญไปนอกจากวัตถุปลุกเสกที่ดีมีมงคลแล้ว คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าธรรมะคือสิ่งเสริมมงคลสูงสุด ผู้ใดครองธรรม (มีธรรมะในใจ) แล้วไซร้ ผู้นั้นถือว่าเป็นผู้ประเสริฐ
                พุทธศาสนิกชนสามารถใส่บาตร ทำบุญด้วยหนังสือธรรมะได้ อย่าขัดเขิน เพราะเป็นการทำบุญที่ดี ได้กุศลแรง ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าการแจกจ่ายหนังสือธรรมะ หรือการได้เทศนาช่วยให้ผู้คนมองเห็นธรรมนั้นได้อานิสงส์มากว่าการสร้างเจดีย์ หรือวิหารทานเสียอีก
                หนังสือธรรมะเล่มหนึ่ง นอกจากเป็นประโยชน์ต่อพระสงฆ์ให้ได้อ่านได้ศึกษาแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อเนื่องให้ท่านได้แจกจ่ายแก่ญาติโยม เป็นประโยชน์มากมาย สำหรับผู้ยังไม่รู้อีกต่อหนึ่งด้วย การใส่บาตรด้วยหนังสือธรรมะนั้นจัดเตรียมได้ง่ายดาย ไม่บูดเน่า เพียงท่านมีหนังสือติดตัว หรือ ติดรถไว้ ก็สามารถแจกจ่ายได้แล้ว บุญกุศลสูงดังพุทธพจน์ที่ว่า “สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ” หมายถึง “การให้ธรรมะเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง” ซึ่งเป็น “ทานแห่งปัญญา” องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว...

.......................

พุทธพจน์

..........
                “ในสังคมปัจจุบันนี้ ความเจริญทางด้านวัตถุมีมากมายเหลือคณานับ ความรีบเร่งในการหาเลี้ยงชีพ ความจำเป็นต่างๆ ความฉาบฉวย และมักง่าย การโดนล่อหลอกให้หลงผิด หลงเชื่อ ขาดความรู้ ในสิ่งที่จริงแท้ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ผลักดันให้ใครๆ หลายคนได้ทำบาปลงไปโดยไม่รู้ตัว
                การสร้างกรรมไม่ดี ถ้าเป็นบาปเล็กน้อยที่ยังไม่ส่งผลทันที เราคงไม่รู้สึก เพราะยังมองไม่เห็นผลของกรรมนั้น เป็นเหตุให้หลายคนยังคงใช้ชีวิตโดยประมาท คิดว่ากรรมชั่วนั้นคงไม่ส่งผล ไม่มีผลกับชีวิตของตน ความจริงแล้วมิได้เป็นเช่นนั้นเลย เพราะไม่ว่าจะเป็นกรรมดี หรือกรรมชั่วล้วนแล้วแต่ต้องส่งผลต่อผู้กระทำทั้งสิ้น แต่จะเมื่อใดที่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับกรรมกำหนด โดยมีกฎแห่งกรรมกำหนดอยู่”
                จากบาปเล็กๆ น้อยๆ ที่เรามองข้าม สะสมกรรมไม่ดีไว้วันละเล็ก ละน้อย ไม่นานก็จะกลายเป็นวิบากกรรมไม่ดีกองโตมหึมา ซึ่งสักวันมันก็จะ ล้มมาทับเรา ทำให้ชีวิตเราหาความสุข ความเจริญในชีวิตมิได้เลย.

                .....สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน...
                เป็นผู้รับผลของกรรม... เป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด...
                เป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์... เป็นผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย...
                ใครทำกรรมอันใดไว้ดีหรือชั่ว ก็จักเป็นผู้รับผลแห่งกรรมนั้น..
                                                                                                                พุทธพจน์

.......................

ไม้ใกล้ฝั่ง

ไม้ใกล้ฝั่ง
                อ.สุนทรเกตุ
             พ่อแม่ก็แก่เฒ่า                        จำจากเจ้าไม่อยู่นาน
จะพบจะพ้องพาน                              เพียงเสี้ยววารขอคืนวัน
             ใจจริงไม่อยากจาก                 เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน
แต่ชีพมิทนทาน                                  ต้องร้าวรานสลายไป
             ขอเถิดถ้าสงสาร                     อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ
คนแก่ชะแรวัย                                    ย่อมเผลอไผลเป็นแน่นอน
             ไม่รักก็ไม่ว่า                            เพียงเมตตาช่วยอาทร
ให้กินและให้นอน                             คลายทุกข์ผ่อนพอสุขใจ
             เมื่อยามเจ้าโกรธขึ้ง               ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย
ร้องให้ยามป่วยไข้                              ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน
             เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่                แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน
หวังเพียงจะได้ยล                               เติบโตจนสง่างาม
             ขอโทษถ้าทำผิด                      ขอให้คิดทุกโมงยาม
ใจแท้มีแต่ความ-                                 หวังติดตามช่วยอวยชัย
             ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง                        มีหรือหวังอยู่นานได้
วันหนึ่งคงล้มไป                                ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง...

.......................

วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2556

ระวัง ๔ จอมมาร


สุรา กามราคะ สมบัติ โมหะ คือ ๔ จอมมารที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นการบรรลุผลต่างๆ จงอย่าได้ประมาท ๔ จอมมารนี้ มนุษย์ชอบเข้าใกล้และหลงใหลที่สุด เพราะ ๔ จอมมาร นี้มีมนต์ขลังแรงมากสามารถทำให้ผู้คนลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมีวีระบุรุษผู้เก่งกล้าสามารถนับไม่ถ้วนที่ต้องตกอยู่ใต้อำนาจของจอมมารทั้ง ๔
๑. มารสุรา   ชาวโลกมักเข้าใจว่า สุราหรือเหล้าทำจากธัญพืช คิดว่าดื่มแล้วคงไม่เป็นไร ซ้ำยังอาจเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมีการนำไปเป็นเครื่องเซ่นไหว้เจ้าและภูตผีเทวดา บางคนแย้งว่าการดื่มเหล้าเป็นการกระตุ้นประสาททำให้เลือดลมไหลเวียนแรงขึ้น นี้เป็นเพราะไม่รู้ถ่องแท้ถึงโทษภัยของการดื่มเหล้า
ผู้ชอบดื่มเหล้า มักเมาเป็นประจำ เมื่อเหล้าออกฤทธิ์ก็เกิดอารมณ์ขวาง สะลึมสะลือ ครองสติไม่อยู่ พูดเอะอะโวยวาย จนเป็นเหตุนำไปสู่การทะเลาะวิวาท หรือบางครั้งใช้อารมณ์เหล้าถือมีดไม้ไปทำร้ายเข่นฆ่าผู้อื่น สร้างความเดือดร้อนแก่ตนและครอบครัวก็มีไม่น้อย
๒. มารกามราคะ  กามนั้นทุกคนต่างชอบเข้าใกล้ ทว่ากามราคะร้ายกาจยิ่งกว่าคมดาบ กามราคะสามารถทำลายผู้คน ผู้ใดเข้าใกล้จะทำให้สูญเสียพลังทำให้ผิดศีลธรรม ทำให้อายุสั้นเพราะกามราคะ (ประพฤติผิดในกาม) ทำให้คอบครัวไม่สงบสุข สามีภรรยาแตกร้าวทำให้เกิดการหึงหวงจนเข่นฆ่ากันหรือฆ่าตัวตายก็มี
๓. มารสมบัติ  บุคคลจะมีสมบัติมากหรือไม่ ต่างได้ถูกลิขิต (กำหนด) ไว้แล้วใช่ว่าดิ้นรนแล้วจะได้ การมีสมบัติมากก็ใช่ว่าจะโชคดีในอดีต ตอนที่บ้านเมืองเกิดกลียุค ครอบครัวที่ร่ำรวยมักถูกคนอิจฉา จนเกิดภัยแก่ตัวเพราะมักถูกพวกโจรคอยดักปล้นจี้ จนบงครั้งถูกทำร้ายจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็มี ถ้ามีสมบัติมากเก็บไว้ให้ลูกหลาน ก็ไม่แน่ว่าลูกหลานจะสามารถรักษาไว้ได้เสมอไป ถ้าหากเอาแต่ลุ่มหลงสุรานารี สิ่งอบายมุข ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย ไม่ทำงานทำการ การมีสมบัติมาก กลับเป็นการเพาะเชื้อแห่งความหายนะ หรืออาจเป็นสื่อแห่งภัยพิบัติได้ ขอแต่เพียงให้เป็นคนซื่อ มีคุณธรรม ไม่ด้นรนแสงหาจนเกินไป
ลูกหลานย่อมมีบุญวาสนาของเขาเอง เพียงให้รู้จักประหยัด พออยู่ไปได้ก็พอ จงจำไว้ว่าพอมัจจุราชมาหาเมื่อไร ถึงมีทรัพย์สมบัติมากมายเพียงใด ก็มิอาจพาไปได้แม้แต่น้อย มาตัวเปล่าไปตัวเปล่า อย่ามุ่งหวังในทรัพย์อันไม่ชอบธรรม ควรถือว่าทรัพย์สมบัติเป็นของนอกกาย แล้วก็จะไม่ถูกมารสมบัติร้อยรัดจนเกิดความทุกข์
๔.มารโมหะ   จิตอารมณ์ของคนควรรักษาไว้ให้ดี พึงรู้ว่ายามอารมณ์สงบระบบไหลเวียนโลหิตก็จะเป็นไปตามปกติ ยามอารมณ์เสียระบบไหลเวียนโลหิตก็ผิดปกติ อารมณ์เป็นหนึ่งในสามสิ่งประเสริฐ (สติ ลมปราณ พรหมจรรย์) ของมนุษย์ ถ้าผิดจากนี้แม้แต่น้อย ก็จะสูญเสียพลังเดิม  ผู้คนมักไม่มีสงบสุขเนื่องจากไม่มีการรักษาอารมณ์ ทำให้เกิดโมหะ คือธาตุไฟ เป็นอันตรายต่อตับและอวัยวะต่างๆ ของร่างกายเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยและอายุสั้น
ลองย้อนดูคนที่ได้รับความเดือดร้อนเพราะสาเหตุไม่สามารถระงับโมหะชั่ววูบ จนทำให้เกิดการรบพุ่ง เพราะโมหะทำให้เกิดการล้มตายและเมื่อมีโมหะสุดขีดจนฆ่าตัวตาย หรือโมหะเป็นเหตุทำให้สามีภรรยาแตกแยก และโมหะตัวนี้สามารถทำให้พี่น้องเกิดการวิวาทบาดหมางด้วยเหตุนี้ มารโมหะจึงเป็นอันตรายต่อคนไม่น้อยเลยทีเดียว
สุรา กามราคะ สมบัติ โมหะ ด่านทั้ง ๔ นี้ ผู้บำเพ็ญธรรม จะต้องผ่าน(ปลง)ให้ได้  อย่าให้ถูกครอบงำโดยเหล่าจอมมาร ดังกล่าว ข้างต้นจึงจะถึงแก่นธรรมโดยง่าย  ทั้ง ๔ จอมมารมีความร้ายกาจเช่นนี้ นักปฏิบัติจึงไม่ควรประมาท เผลอเมื่อใดเป็นถูกจู่โจมเล่นงานทันที ขอให้พึงสังวร

................

จุดเล็กๆ



อย่ามองข้ามจุดเล็กๆ เพียงจุดเดียว หลายคนมักคิดว่า..จุดเล็ก ๆ ไม่ก่อปัญหาอะไร..ปล่อยข้ามมันไปเลย.. แต่จุดเล็กๆ เพียงจุดเดียว..อาจก่อให้เกิดความเสียหาย..และติดอยู่ในความทรงจำ และความรู้สึก..ของเราได้ตลอดไปเช่นกัน..
บางคนไม่ใส่ใจต่อปัญหาที่เริ่มจากจุดเล็ก ๆ..ที่เป็น ข้อผิดพลาดของชีวิต..ปล่อยเลย..ตามเลย..เพียงเพราะมองข้ามจุดเล็ก ๆ นี้ไป..อาจก่อให้เกิดความเสียหายตามมาอย่างมากมาย
                เพียงอย่ามองข้ามปัญหาทุกๆ จุดของชีวิต..และพยายามเอาใจใส่..ด้วยการ ใช้สติพิจารณาอย่างใคร่ครวญ..คำนึงถึงเหตุและผล..ที่จะเกิดขึ้นตาม มาภายหลังอย่างละเอียดถี่ถ้วน..
ปัญหาแม้เล็กน้อย..หากให้ข้อคิดเตือนใจเราได้..เราก็ไม่ควรมองข้าม..หรือละเลยทิ้งมัน ไป..
                ปัญหาใหญ่โต..เกิดจากปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ก่อตัว..เพิ่มจำนวนของปัญหามากขึ้น..หากเราไม่รีบแก้ไข..จากจุด เล็ก ๆ ของปัญหาเหล่านั้น..อาจก่อให้เกิดปัญหาใหญ่โต..ที่ยากแก่ การแก้ไขได้..

                ชีวิตของคนเราที่เกิดปัญหาขึ้น..ก็เพราะการไม่ใส่ใจต่อความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตนนั่นเอง
...........................

ข้อคิดหรับชีวิตที่ดีกว่า


  โลกกลมๆ ใบนี้ ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี
 อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง
 คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย
 ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ ( เติ้งเสี่ยวผิง )

 ยิ่งมีใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น
 ในโลกกลมๆใบนี้ไม่มีคำว่าแน่นอน
 ความปรารถนาอย่างแรงกล้า นั่นแหละคือเหตุผล
 คนเราเมื่อม้าตาย ก็ต้องลงเดิน
 คนเราจะไม่ต้องใช้สมองเลย ถ้าพูดแต่ความจริง
 ท้อแท้ได้แต่อย่าท้อถอย อิจฉาได้แต่อย่าริษยา
 พักได้แต่อย่าหยุด
 เหตุผลของคนๆ หนึ่ง อาจจะไม่ใช่เหตุผลของคนอีกคนหนึ่ง
 ถ้าคุณไม่ลองก้าว จะไม่มีวันรู้เลยว่า  ข้างหน้าเป็นอย่างไร
 ปัญหาทุกอย่าง ล้วนอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
 น้ำใจส่วนน้ำใจ เหตุผลส่วนเหตุผล
 เรื่องดีหรือเรื่องร้ายทางที่ดีบอกกันก่อน
 หนทางยาวไกลนับหมื่นลี้
 ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกก่อนเสมอ
 เราจะเห็นค่าความอบอุ่น   ก็ต่อเมื่อเราผ่านความเหน็บหนาวมาแล้ว
 อันตรายที่สุดสำหรับชีวิตคนเรา คือ การคาดหวัง
 เริ่มต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย
 สวรรค์นั้นพึ่งยาก คนนั้นพึ่งยากกว่า
 อย่ายอมแพ้ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่
 จงใช้สติ อย่าใช้อารมณ์
 เบื้องหลังความเข้มแข็ง สมควรมีความอ่อนโยน
 เบื้องหลังของสติ สมควรมีอารมณ์
 ไม่มีคำว่าบังเอิญในเรื่องของความรัก มีแต่คำว่าตั้งใจ 
 ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป
 หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใส
 หลังผ่านปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้นเล็กนิดเดียว
 ไม่เป็นขุนนางนะได้   แต่ไม่เป็นคนไม่ได้
 มีแต่วันนี้ ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง
 เมื่อวานก็สายเกินแก้   พรุ่งนี้ก็สายเกินไป
.....................