ในโลกนี้มีหลายอย่างที่มนุษย์จะต้องเรียนรู้
เพื่อเป็นข้อมูลที่จะนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตว่าอะไรควรหลีกเว้น อะไรควรกระทำ
ตลอดจนจะใช้วิธีแก้ปัญหาอย่างไรจึงจะได้ผลที่พึงประสงค์
เพราะผู้ที่เรียนรู้มากทั้งด้านวิชาการและมีประสบการณ์ จัดว่าเป็นพหูสูต
คือผู้คงแก่เรียน
ย่อมมีความฉลาดที่จะดำรงตนอยู่ในโลกนี้อย่างมีคุณค่าและสร้างสรรค์
สิ่งที่คนเราเรียนรู้แต่ละอย่าง
เช่น กฎกติกาที่ตั้งใจ ค่านิยมของสังคม พฤติกรรมของคน
ตลอดทั้งผลงานของคนที่ล้มเหลว หรือประสบผลสำเร็จ
รวมทั้งการกระทำและประสบการณ์ของตนเองที่ผ่านมา
ล้วนแต่เป็นบทเรียนของชีวิตได้ทั้งนั้น
คนที่รู้หลักการว่าสิ่งที่จะทำนั้นถูกต้องหรือไม่
ย่อมมีความมั่นใจมากกว่าคนที่ไม่รู้เลย
ด้วยเหตุนี้ในทางพระพุทธศาสนาจึงสอนให้ใคร่ครวญโดยรอบคอบก่อน แล้วจึงลงมือทำ
ซึ่งหมายถึง ให้การศึกษาเรียนรู้ก่อนว่า เมื่อทำ พูด คิดสิ่งนั้นแล้ว
จะมีผลดีหรือเสียอย่างไร มิใช่ทำลงไปแล้วจึงมาคิดภายหลัง
เพราะอาจจะเกิดความเสียหายขึ้นได้ หากบุคคลสามารถปฏิบัติได้เช่นนี้
ผลงานที่ปรากฏออกมาย่อมเป็นไปในทางที่ดี
สร้างความชื่นใจแก่ผู้ทำและนำความสงบสุขสู่สังคม
แต่บางครั้ง
คนเราทั้งที่รู้ว่าสิ่งนั้นไม่ดี ก็ยังฝืนทำ
ที่เป็นเช่นนั้นเพราะกำลังใจยังไม่เข้มแข็งพอ อีกทั้งสติยังไม่มั่นคง
จึงจำเป็นต้องฝึกสติให้มั่นคงและรู้เท่าทัน
เพื่อจะได้ควบคุมจิตใจไว้ในแนวทางที่ถูกต้อง
สามารถเอาชนะแรงดึงดูดจากสิ่งยั่วยวนต่างๆ ได้
เพราะมนุษย์ที่ฝึกฝนตนดีแล้วเท่านั้นเป็นผู้ประเสริฐ มนุษย์ที่ไม่ฝึกตนให้ดี
ไม่ประเสริฐเลย
ดังนั้น
การดำรงชีวิตอยู่ในสังคมจึงต้องเรียนรู้หลายๆ ด้าน
เพื่อจะได้นำมาเป็นข้อมูลประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตของตนให้เป็นไปในทางสร้างสรรค์
เพราะความรู้ที่ถูกต้องและชัดเจนย่อมส่งผลให้เกิดความมั่นใจในการดำเนินชีวิตนั่นเอง
.............................................