มีเรื่องกล่าวขานว่า บุคคลผู้นั้น
ผู้นี้แต่เดิมเป็นคนมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงดี
พอได้ลาภก้อนโตหรือได้รับเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นไม่นานนัก เกิดเจ็บป่วย
สามวันดี สี่วันไข้ บ้างก็ถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ หรือถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มี ก็มักถูกวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเป็นเพราะแพ้ภัยตนเอง
เป็นทุกขลาภ พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ไม่ดูเลิกยามตอนเข้ารับตำแหน่ง
หรือเป็นเพราะบารมีไม่ถึง จึงมีข้อสงสัยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่
ในทางพระพุทธศาสนามีหลักอยู่ว่า
บรรดาเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ไม่มีเรื่องใดที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
หากแต่เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยและมีที่ไปที่มา
ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าจะสามารถสืบสาวให้ถึงสาเหตุหรือมองย้อนไปตลอดสายของเรื่องนั้นๆ
ได้หรือไม่เท่านั้น
สำหรับลาภยศ
ตามที่โลกนิยมจะมีข้อแม้หรือกฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับ ต่างๆ รองรับอยู่
ใครก็ตามที่มีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ก็ย่อมมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะได้หรืออยู่ในฐานะตำแหน่งนั้นได้
และถ้าเป็นไปตามคำกล่าวที่ว่า นายดึง ลูกน้องดัน คนเสมอกันสนับสนุน ด้วยแล้ว
ก็ยิ่งจะเป็นเรื่องง่าย แต่ในทางพระพุทธศาสนาสอนว่า มีความรู้ดี มีความสามารถดี
มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด เท่านั้นยังไม่เพียงพอ
จะต้องมีความประพฤติดีงามรวมอยู่ด้วย
ความประพฤติดีงามดังกล่าวมิได้หมายเฉพาะความดีงามในชาตินี้เท่านั้น
ยังรวมถึงความประพฤติดีงามที่เรียกว่า ปุพเพกตปุญญตา คือความเป็นผู้ได้เคยทำความดีงามหรือทำบุญมาแต่ชาติปางก่อน
จึงจะไม่มีปัญหาและอุปสรรคใดๆ มาขัดขวาง
ดังนั้น
ก่อนที่อยากจะได้หรืออยากจะเป็นอะไร ควรระลึกไว้เสมอว่า ความรู้ ความสามารถ
ที่เรียกว่าศักยภาพ และคุณความดีหรือบุญบารมี เรามีพอหรือยัง
ถ้าแม้นว่าความรู้ก็ดี ความสามารถก็มาก แต่ยังไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้ก็ขอให้คิดเสียว่า
บารมียังไม่ถึง เพราะถ้ายังฝืนได้หรือฝืนเป็นโดยที่ยังไม่ถึงเวลาอันสมควรได้
อาจจะแพ้ภัยตนเอง ทำให้เสียใจไปตลอดชีวิตก็ได้
........................................